วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

6.1 การเตรียมอุปกรณ์และการประกอบคอมพิวเตอร์

12ขั้นตอนการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนที่ เตรียมชุดเครื่องมือให้พร้อม
ชุดเครื่องมือสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์

ปากแบนและไขควงแฉกขนาดกลาง ใช้ขันน็อตยึดเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส ยึดการ์ดเพิ่มเติม ติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์ ซีดีรอมไดรว์ และฮาร์ดดิสก์ ตลอดจนการปิดฝาเคส

ตัวครีบสกรู ใช้คีบน็อตใส่ในช่องเกลียวสำหรับน็อตในที่คับแคบที่ไม่สามารถใช้มือจับได้

ตัวถอดชิป ในเครื่องรุ่นเก่าตัวชิปมักจะติดตั้งอยู่ในซ็อกเก็ตในลักษณะถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งตัวถอดชิปจะช่วยได้มากแต่ในปัจจุบันชิปมักจะถูกฝังบนตัวการ์ดหรือเมนบอร์ดตั้งแต่ผลิตออกมาจากโรงงานแล้ว การถอดต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่ผลิตมาโดยเฉพาะ

หลอดเก็บสกรูและจัมเปอร์ ใช้สำหรับเก็บสกรูและจัมเปอร์ที่เหลือจากการประกอบเครื่อง ไว้ใช้ในยามจำเป็น

ปากคีบ สำหรับคีบจับสกรูหรืออุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่ใช้มือที่หยิบไม่ได้

บล็อกหกเหลี่ยมขนาดเล็ก ใช้สำหรับขันน็อตหกเหลี่ยมตัวเมียกับแผงเหล็กของเคส เพื่อยึดเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส

หัวมะเฟืองสำหรับยึดน็อตพิเศษแบบหกเหลี่ยมสำหรับอุปกรณ์บางประเภทที่ทางผู้ผลิตไม่ต้องการให้ ผู้ที่ไม่ใช่ช่างอาชีพมาแกะซ่อมเอง




ขั้นตอนที่ เตรียมตัวเคสสำหรับติดตั้งเมนบอร์ด


ขั้นตอนนี้เป็นขั้นเริ่มต้นสำหรับประกอบเครื่องมือ ให้ใช้ไขควงขันคลายน็อตยึดตัวเคสและเปิดฝากั้นออกมา โดยภายในเคสทุกตัวจะมีสายเพาเวอร์เครื่อง ชุดน๊อตสำหรับสำหรับประกอบเครื่อง ให้ตรวจสอบดูให้เรียบร้อยและทำตามขั้นตอนดังนี้


1.ใช้ไขควงขันคลายน๊อตด้านหลังตัวเคสเพื่อเปิดฝาด้านข้างออก


2. ภายในเคสทุกตัวจะมีน๊อตประกอบเครื่อง สายเพาเวอร์เครื่อง และให้แกะออกมาจัดเตรียมไว้ให้พร้อม


3.เปิดแผงเหล็กกั้นด้านข้างตัวเคสออก เพื่อเตรียมติดตั้งเมนบอร์ด


4. แสดงให้เห็นลักษณะการง้างแผงเหล็กด้านข้าง ก่อนถอดออกมา


5. ตัวเคสที่แกะแผงข้างออกมา พร้อมประกอบเข้ากับเมนบอร์ดแล้ว





ขั้นตอนที่ 3 ติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคส


ขั้นตอนนี้ให้แกะกล่องบรรจุเมนบอร์ดที่เพิ่งซื้อออกมาดู โดยทุกเมนบอร์ดจะมีตัวเมนบอร์ด สายฮาร์ดดิสก์/ฟล๊อบปี้ดิสก์ คู่มือเมนบอร์ด และแผ่นซีดีไดรว์เวอร์เมนบอร์ดมาด้วย ให้ตรวจดูความเรียบร้อยก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดในขั้นตอนนี้คือ เมื่อติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคสแล้ว ให้กำหนดจัมพ์เปอร์บนเมนบอร์ดเป็น " " "Normal" ( เมนบอร์ดที่ซื้อมาทุกอันจะถูกกำหนดจัมพ์เปอร์เป็น "Clear CMOS" เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมด) เพราะหากไม่กำหนดจัมพ์เปอร์ให้ถูกต้อง หลังประกอบเครื่องแล้วจะบู๊ตเครื่องๆไม่ได้ สำหรับการติดตั้งเมนบอร์ดมีขั้นตอนดังนี้


1. แกะกล่องเมนบอร์ดตรวจดูคู่มือ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม


2. ขันแท่นรองน๊อตเข้ากับแท่นเครื่องให้ตรงกับช่องเมนบอร์ด


3.วางทาบให้ช่องเมนบอร์ดตรงกับรูแท่นรองน๊อตที่ขันยึดกับแผงเคส โดยสังเกตดูให้แท่นรองน็อตตรงกับเมนบอร์ดทุกช่อง


4. ขันน๊อตลงบนแท่นรองน๊อต เพื่อยึดเมนบอร์ดเข้ากับแผงเคส


5. ให้คีมปากจิ้งจกคีบจัมเปอร์ มาใส่ไว้ตำแหน่ง "Normal"





 ขั้นตอนที่ 4 ติดตั้งซีพียูบนเมนบอร์ด


การติดตั้งซีพียูในปัจจุบันสะดวกกว่าแต่ก่อนมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแบบซ๊อกเก๊ตที่มีขาทั้งตัว เวลาติดตั้งกับช็อกเก็ตบนเมนบอร์ด ให้หันมุมที่มีรอยหักให้ตรงกับด้านที่มีรอยหักบนเมนบอร์ด ก็จะเสียบลงไปได้พอดี หากใส่ไมเข้าอย่าฝืนดันเข้าไปให้ถอดออกมาตรวจสอบและตรวจดูมุมหักให้ถูกต้อง ก่อนใส่กลับเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นให้ติดตั้งพัดลมระบายความความร้อนให้กับซีพียูด้วย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้


1. ง้างกระเดื่องล็อคซีพียูออกทางด้านข้างจนสุด และดันขึ้นเพื่อเตรียมใส่ซีพียู


2. เสียบใส่ซีพียูเข้ากับซ็อกเก็ตโดยดันเข้าไปตรงๆ ให้ด้านที่มีรอยหักของซีพียูตรงกับรอยหักซ้อกเก็ต


3. ดันแขนกระเดื่องกลับลงมาล็อคกับช็อกเก็ตเหมือนเดิม


4. ใช้ไขควงเกี่ยวแขนล็อคพัดลมยึดกับหูล็อคบนช็อกเก็ตบนเมนบอร์ด


5. เสียบสายพัดลมเข้ากับขั้วจ่ายไฟเลี้ยงเมนบอร์ดที่ตำแหน่ง "CPU FAN"





 ขั้นตอนที่ 5 ติดตั้งแรมเข้ากับเมนบอร์ด


การติดตั้งแรมเข้ากับเมนบอร์ดทำได้ไม่ยาก แต่มีหลักอยู่ว่าในช่องเสียบแรมชนิดต่างๆ จะมีล็อคอยู่ในตำแหน่งต่างกัน เพื่อป้องกันการเสียบแรมผิดด้านจะทำให้แรมไหม้เสีย ดังนั้นก่อนเสียบแรมทั้งแบบ SDRAM,DDRSDRAM และ RDRAM ควรตรวจดูคันล็อคว่าอยู่ด้านใดและใส่แรมให้ถูกด้าน โดยมีขั้นตอนดังนี้


1. หาตำแหน่งสล็อตเสียบแรมบนเมนบอร์ด และเตรียมแรมให้พร้อม


2. หันแรมให้ถูกด้านโดยให้รอยบากบนตัวแรม ตรงกับคันล็อคบนสล็อตเมนบอร์ด ให้ตรวจดูให้ดีว่าสล็อตเมนบอร์ดใช้แรมที่เรามีอยู่ได้หรือไม่


3.ดันแรมลงไปตรงๆ จนสุด ซึ่งสังเกตได้ว่าแขนล็อคแรมได้กระดกกลับมาล็อคปลายแรมทั้งสองข้างพอดี





 ขั้นตอนที่ 6 ติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์


การติดตั้งฟล็อบปี้ดิสก์ค่อนข้างง่ายกว่าติดตั้งอุปกรณ์อื่น เพราะมีสายที่ต้องติดตั้งเพียง เส้นคือ สายไฟและสายสัญญาณ การติดตั้งสายไฟจะมีหัวล็อคอยู่ถ้าไม่พอดีอย่าฝืนดันเข้าไปส่วนสายสัญญาณก็ให้เสียบขาที่ 1 ให้ตรงกับฟล็อบปี้ดิสก์ในการสังเกต คือ เมื่อเสียบสายทั้ง เส้นเข้ากับฟล็อบปี้ดิสก์แล้วสายไฟเส้นสีแดง และสายสัญญาณด้านที่มีสีแดงต้องอยู่ชิดกัน มีขั้นตอนดังนี้


1. ใส่ฟล็อบปี้ดิสก์เข้าไปในช่องติดตั้ง ( Drive Bay ) และดันเข้าไปให้สุด


2. ใช้ไขควงขันน๊อตยึดฟล็อบปี้ดิสก์เข้ากับช่องเคส


3. เสียบสายจ่ายไฟเลี้ยงและสายสัญญาณเข้ากับไดรว์ให้ถูกต้อง


4.เสียบสายสัญญาณอีกด้านเข้ากับช่องเสียบบนเมนบอร์ด โดยให้ด้านที่มีสายสีแดงตรงกับขา บนเมนบอร์ด





 ขั้นตอนที่ 7 ติดตั้งฮาร์ดดิสก์


ก่อนการติดตั้งฮาร์ดดิสก์เข้าเครื่อง ให้กำหนดจัมเปอร์ฮาร์ดดิสก์ก่อนโดยถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับติดตั้ง และบู๊ตระบบต้องกำหนดให้เป็น"Master" อย่างเดียว สำหรับฮาร์ดดิสก์ลูกที่ ที่ติดตั้งบนสายเส้นเดียวกันก็ให้กำหนดเป็น "slave" และให้ติดตั้งสาย เส้นเช่นเดียวกันกับฟล็อบปี้ดิสก์ คือสายจ่ายไฟ และสายสัญญาณให้เสียบให้ถูกด้านโดยสายจ่ายไฟมีรอยหักมุมบน ส่วนสัญญาณให้สังเกตขา เป็นหลักโดยมีตัวเลขกำกับไว้ที่ท้ายไดรว์ ส่วนที่ส่วนตัวสายขา จะมีสีแดง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้


1. กำหนดจัมเปอร์ฮาร์ดดิสก์ไว้ที่ตำแหน่ง "Master" เพื่อใช้บู๊ตเครื่อง


2.ใส่ฮาร์ดดิสก์เข้าไปในช่องใส่ไดรว์ในเคส (Drive Bay) โดยดันเข้าไปให้สุด และขยับให้ช่องขันน๊อตของตัวไดรว์ตรงกับรูยึดด้านข้างของตัวเคส


3. ขันน๊อตยึดฮาร์ดดิสก์เข้ากับผนังเคส โดยขันให้ครบทั้ง ด้าน


4.เสียบสายจ่ายไฟและสายสัญญาณเข้าที่ท้ายฮาร์ดดิสก์โดยให้สายจ่ายไฟด้านที่มีรอยหักมุมอยู่บน ส่วนสายสัญญาณให้ด้านที่มีเส้นสีแดงชิดกับสายจ่ายไฟ


5.นำปลายอีกด้านของสายสัญญาณเสียบเข้ากับช่องต่อบนเมนบอร์ด โดยให้เส้นสีแดงอยู่ตรงขา บนเมนบอร์ดโดยจะมีตัวเลข 1กำกับอยู่




 ขั้นตอนที่ 8 ติดตั้งซีดีรอม/ดีวีดีรอม


การติดตั้งไดรว์ซีวีดีรอมหรือดีวีดีรอม มีหลักการคือ ให้กำหนดจัมเปอร์ที่ด้านหลังตัวไดรว์ก่อน หากใช้สายสัญญาณเส้นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ให้กำหนดเป็น"Slave" แต่หากสายสัญญาณคนละเส้นให้กำหนดเป็น "Master" หรือ "Slave" ก็ได้ และให้เสียบสายไฟให้ถูกด้าน โดยให้หันด้านที่มีรอยหักขึ้นบนเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ มีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือ ให้เสียบสายเสียงเข้าท้ายไดรว์ด้วย โดยขั้นตอนมีดังนี้


1. กำหนดจัมเปอร์ด้านหลังไดรว์ โดยกำหนดให้เป็น "Slave" เพื่อให้ใช้สายเส้นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ หรือจะใช้สาย IDE อีกเส้นหนึ่งก็ได้


2.ใส่ไดรว์ซีดีรอม/ดีวีดดีรอมเข้าด้านหน้าตัวเคสและดันเข้าไปให้สุด โดยให้ด้านหน้าไดรว์อยู่พอดีกับหน้ากากเคส


3.ขันยึดน๊อตเพื่อยึดไดรว์เข้ากับตัวเคสให้แน่น โดยขันทั้งสองด้าน


4.เสียบสายจ่ายไฟและสายสัญญาณเข้ากับท้ายไดรว์ โดยใช้หลักการเดียวกับฮาร์ดดิสก์คือ สาจ่ายไฟให้ด้านที่มีรอยหักอยู่บน ส่วนสายสัญญาณให้เส้นที่ 1 (สีแดง) อยู่ชิดกับสายจ่ายไฟ(แดงขนแดง) หลังจากนั้นให้นำสายสัญญาณเสียง(มีอยู่ในกล่องไดรว์) เสียบเข้าท้ายไดรว์ให้สุด


5.นำปลายอีกข้างของสายสัญญาณไปเสียบบนเมนบอร์ด ให้ด้านที่มีสายสีแดงอยู่ตรงกับขา บนเมนบอร์ด





ขั้นตอนที่ 9 ติดตั้งการ์ดจอบนเมนบอร์ด


ขั้นตอนต่อไปนี้จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ลงบนเมนบอร์ด และยึดกับตัวเคสด้วย จึงต้องประกอบเมนบอร์ดพร้อมฝากลับเข้ากับตัวเคสก่อน แล้วจึงเสียบการ์ดต่อเพิ่มต่างๆ ลงไปบนเมนบอร์ดได้


1.นำเมนบอร์ดพร้อมแผงรองที่เกี่ยวเข้ากับตัวเคสเพื่อเตรียมติดเข้าที่เดิม


2.ให้ขันน๊อตหรือยึดสลักปิดฝาข้างเคสเข้ากับตัวเคสให้แน่น โดยให้ตรวจดูด้วยว่าได้เก็บสายสัญญาณต่างๆ ไว้เรียบร้อย


3.ให้นำการ์ดจอออกจากกล่องมาเตรียมไว้และให้ตรวจดูสล๊อตสำหรับติดตั้งการ์ดจอโดยการ์ดรุ่นใหม่จะใช้สล็อต AGP กันหมดแล้ว จุดสังเกตคือเป็นสล็อตสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ด้านบนใกล้กับซีพียู(ถ้าเป็นสล็อต PCI สำหรับเสียบการ์ดต่อเพิ่มอื่นจะมีสีขาว)


4.นำการ์ดจอไปเสียบเข้ากับสล็อต AGP บนเมนบอร์ดโดยดันลงไปตรงๆ ให้แน่น แล้วขันน๊อตเข้ากับท้ายเคส


*****( หากใช้ ON Board )ให้ข้ามขั้นตอนไป ****







ขั้นตอนที่ 10 ติดตั้งการ์ดเสียงเข้ากับเมนบอร์ด


การติดตั้งการ์ดเสียงก็คงเช่นเดียวกับการ์ดจอโดยให้มองหาสล็อต PCI ซึ่งเป็นสล็อตที่มีมากที่สุดในเครื่องจะเป็นสีขาว โดยเสียบตัวการ์ดลงไปให้แน่น หลังจากนั้นให้ขันยึดน๊อตเข้ากับตัวเคส แต่มีขั้นตอนพิเศษ คือ ให้เสียบสายสัญญาณเสียงที่ต่อจากท้ายไดรว์ซีดีรอม/ดีวีดีรอมเข้ากับขั้วต่อบนการ์ดเสียงด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้


1.เตรียมการ์ดเสียงไว้ และมองหาสล็อตแบบ PCI บนเมนบอร์ด


2.นำการ์ดเสียงเสียบเข้าสล็อตแบบ PCI บนเมนบอร์ดให้แน่นและขันยึดน๊อตเข้ากับท้ายเคสให้แน่นเช่นกัน


3.นำสายสัญญาณอีกข้างหนึ่ง ที่เสียบจากท้ายไดรว์ซีดีรอม/ดีวีดีรอมมาเสียบเข้ากับเข้ารับ CD-IN บนการ์ดเสียงโดยเสียบด้านใดก็ได้เนื่องจากเป็นแค่ช่องเดียวเท่านั้น(การเสียบกลับด้านเป็นการสลับช่องระหว่างลำโพงซ้าย-ขวาเท่านั้น


*****( หากใช้ ON Board )ให้ข้ามขั้นตอนไป ****




 ขั้นตอนที่11 ติดตั้งสายสัญญาณเข้ากับตัวเมนบอร์ด


ขั้นตอนนี้เป็นการติดตั้งสายชนิดต่างๆ ที่อยู่ภายในตัวเคสเข้ากับเมนบอร์ดเพื่อให้เครื่องทำงานได้ ซึ่งได้แก่ สายจ่ายไฟให้กับเมนบอร์ด,สาย Power LED , สาย Power Switch, สาย HDD LED , สาย Reset และสาย Speaker ซึ่งเป็นสายหลักที่จะต้องมีในทุกเครื่อง โดยมีขั้นตอนดังนี้


ติดตั้งสายจ่ายไฟเลี้ยงเมนบอร์ด


1.ในขั้นตอนแรกนี้ให้มองหาช่องรับไฟเลี้ยงบนเมนบอร์ดซึ่งเป็นขั้วสีขาวมีจำนวน 20 ช่อง เมื่อพบแล้วให้เตรียมจัดขั้วจ่ายไฟเลี้ยงเข้ากับตัวเคสไว้


2.ให้นำสายจ่ายไฟเลี้ยงจากตัวเคส(แหลเงจ่ายไฟ) ไปเสียบเข้ากับช่องรับไฟเลี้ยงสีขาวบนเมนบอร์ด โดยจัดให้จัดด้านที่มีหัวล็อคให้ตรงกัน


3.หลังจากนั้นให้เสียบสายจ่ายไฟลงไปบนช่องรับไฟเมนบอร์ด


ติดตั้งสายสัญญาณเครื่อง


1.ตรวจดูขา Pin สำหรับเสียบสายสัญญาณบนเมนบอร์ดเปรียบเทียบกับภาพในคู่มือบนเมนบอร์ด เพื่อหาขาสัญญาณสำหรับสายชนิดต่างๆ


2.เมื่อทราบตำแหน่งที่ตั้งขาเสียบสายสัญญาณเรียบร้อยแล้ว ก็นำสายสัญญาณภายในเคสไปเสียบเข้ากับขาเสียบบนเมนบอร์ด ตามรูป


หลังจากเสียบสายสัญญาณทุกเส้นแล้ว ให้ฝาเคสมาปิดกลับให้เรียบร้อย ก็จะได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ประกอบพร้อมสำหรับการติดตั้งระบบต่อไป





ขั้นตอนที่ 12 ประกอบอุปกรณ์ภายนอกเข้ากับเครื่อง


อุปกรณ์ภายนอกที่เป็นพื้นฐานสำหรับการใช้งานเครื่อง ได้แก่ การติดตั้งสายสัญญาณจอภาพ ลำโพง สายจ่ายไฟ คีย์บอร์ดและเมาส์เข้ากับเครื่อง มีขั้นตอนดังนี้


1.เสียบหัวต่อคีย์บอร์ดเข้ากับช่องเสียบบนเครื่อง โดยช่องเสียบคีย์บอร์ดจะมีสีม่วง (อยู่ด้านใน) และหันรอยบากให้ตรงกับร่องล็อคของช่องเสียบ


2.เสียบหัวต่อเมาส์เข้ากับช่องเสียบท้ายเครื่องซึ่งช่องเสียบเมาส์จะมีสีเขียวอ่อน(อยู่ด้านนอก) และให้หันรอยบากให้ตรงกับร่องของช่องเสียบ


3.นำหัวต่อสายจอภาพรูปตัว "D" มาเทียบกับขั้วต่อจอภาพท้ายเคส โดยให้ด้านใหญ่-เล็กตรงกัน และเสียบให้แน่นพร้อมกับขันเกลียวด้วยน๊อตที่อยู่ด้านท้ายหัวต่อสายจอภาพ


4.นำแจ็คเสียงของลำโพงมาเสียบเข้ากับช่อง Speaker ท้ายเคส


5.นำสายจ่ายไฟเลี้ยงของจอภาพมาเสียบเข้ากับช่องเสียบท้ายเคส(อยู่ด้านหลัง Power Supply ) ซึ่งเป็นช่องจ่ายไฟ


6. นำสายจ่ายไฟจากปลั๊กไฟบ้านมาเลี้ยงที่ช่องรับไฟท้ายเคสซึ่งมักมีอักษรกำกับไว้ เช่น AC 230 V

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น